วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ใบงานที่ 10

ใบงานที่ 10

ชื่อ นายสุธีรุจ อุปถัมภ์
วัน เดือน ปี เกิด 2 พฤศจิกายน 2511
ภูมิลำเนา ตำบลแหลม อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช
ประวัติการศึกษา
2518 - 2524 ศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนนิคม
2524 - 2527 ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาต้น โรงเรียนควนกาหลงวิทยาคม “นิคมวัฒนา” จ.สตูล
2527 - 2530 ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนกำแพงวิทยา จ.สตูล
2530 - 2533 ศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาลัยครูสงขลา วิชาเอกคณิตศาสตร์ pure Math

2539 - 2541 ลาศึกษาต่อ ระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลาสาขาคณิตศาสตร์
2552 ศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ประวัติการทำงาน
2534 - 2538 ครูโรงเรียนวัดบางใหญ่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
2538 - 2548 ลาศึกษาต่อปริญญาโท
2548 - ปัจจุบัน ครูโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ นครศรีธรรมราช สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1

ใบงานที่ 13

สำหรับนักศึกษาที่ไม่ได้ไปทัศนศึกษาในวัน ระหว่างวันที่ 18-22 มกราคม 2553
ทำกิจกรรมอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมให้สรุปประเด็น
ระหว่างวันที่ 18-22 มกราคม 2553 กระผมมีภารกิจการจัดกิจกรรมค่ายลูกเสือ ระดับ ม.3 ได้ดำเนินการให้ลูกเสือได้สอบวิชาพิเศษ
วิธีดำเนินการสอบวิชาพิเศษ
โรงเรียนดำเนินการแต่งตั้งกรรมการ เพื่อดำเนินการสอนและสอบวิชาพิเศษ โดยออกคำสั่งในนามโรงเรียน เมื่อทำการสอนแล้วให้จัดสอบภาคทฤษฎี และ ภาคปฏิบัติ จากนั้นให้ทำเรื่องขออนุมัติผลการสอบและขอประดับเครื่องหมายวิชาพิเศษ ไปยังเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ หรือผู้อำนวยการลูกเสือจังหวัด แล้วแต่กรณี ดังนี้
1. หนังสือขออนุมัติผลการสอบและขอประดับเครื่องหมายวิชาพิเศษ
2. คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบ
3. รายชื่อลูกเสือ ที่สอบได้ - ตก แต่ละรายวิชา
4. ข้อสอบภาคทฤษฎี
5. ข้อสอบภาคปฏิบัติ

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

MV


Happy Vampires โหลดเพลงแกรมมี่แบบไม่ยั้ง แค่เดือนละ 20 บาท Click ที่นี่เลย

ใบงานที่ 14

การใช้บล็อก Gotoknow และบล็อก Blogspot ทั้งส่วนที่ดีและส่วนที่ไม่ดี สรุปได้ดังนี้

Gotoknow
1. ใช้เป็นที่เก็บรวบรวมความรู้
2. สามารถใช้เป็นที่เก็บภาพและข้อมูลได้
3. สามารถเข้าไปอ่านบันทึกและแสดงความคิดเห็นได้
4. ในบล็อกสามารถทำ Link ให้กับเว็บไซต์ที่เราสนใจได้
5. บล็อกสามารถเปิดพร้อมกันหลาย ๆ หน้าต่างได้และสามารถแก้ไขบันทึก 2 บันทึกขึ้นไปพร้อมกันได้
6. การเขียนบันทึกใน word จะเอามาลงใน Gotoknow โดยตรง ตัวอักษรจะมีขนาดคงที่
7. ได้พบเพื่อนใหม่ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
8. ภาพที่ใส่ในบันทึกจะคมชัดกว่า (ภาพเดียวกันที่ใส่) ใน Word
9. ระบบบล็อกของ GotoKnow สามารถตกแต่งรูปลักษณ์ได้สารพัด
10. การกรอกประวัติ gotoknow จะให้กรอกประวัติได้ครบถ้วนชัดเจน

Blogspot
1. blogspot สามารถใส่ภาพประกอบได้
2. blogspot สามารถเข้าไปแก้ไขเพิ่มเติมข้อความ และลบข้อความได้
3. บันทึกแต่ละฉบับที่เราพิมพ์ใน blogspot เวลาเปิดดูจะแสดงเต็มหน้าและแต่ละฉบับจะต่อกันจนครบทุกฉบับ สามารถคลิกดูครั้งเดียวก็จะเห็นบันทึกทุกฉบับการเข้า
4. การเข้า webside blogspot จะเข้าง่ายกว่า
5. blogspot มี background รูปแบบพื้นหลังให้เลือกหลากหลาย
6. blogspot จะมีลูกเล่นที่น่าสนใจ เช่น การทำวีดีโอ วิทยุ นาฬิกา ปฏิทิน เป็นต้น
7. รูปแบบของบล็อกน่าในใจ และน่าติดตาม
8. อ่านบันทึกแล้วสามารถแสดงความคิดเห็นได้ และเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนได้

ใบงานที่ 12

การใช้โปรแกรม SPSS

1. ขั้นตอนการเรียกใช้โปรแกรม
คลิก Start -> All Programs -> SPSS for Windows -> SPSS 11.5 for Windowsหรือ Double Click ไอคอนบนหน้าจอ Windows
2. ส่วนประกอบหลักของ SPSS FOR WINDOWS
เมื่อเปิดโปรแกรมจะได้หน้าต่างที่มีส่วนประกอบดังต่อไปนี้
-Title Bar บอกชื่อไฟล์ เช่น Untitled-SPSS Data Editor (หากเปิดครั้งแรก)
-Menu Bar คำสั่งการทำงาน
-Cell Editor กำหนดค่าตัวแปร
-Cases ชุดของตัวแปร
-Variable กำหนดชื่อตัวแปร
-View Bar มีสองส่วน ได้แก่ Variable View (สร้างและแก้ไขโครงสร้างตัวแปร) และ Data View (เพิ่มและแก้ไขตัวแปร)
-Status Bar แสดงสถานการณ์ทำงาน
3. การป้อนข้อมูลจากหน้าจอData Editor
3.1 เปิด SPSS Data Editor โดยไปที่ File -> New -> Data
3.2 กำหนดชื่อและรายละเอียด จากหน้าจอ Variable View
3.3 ป้อนข้อมูล Data View
3.4 บันทึกข้อมูล File -> Save

ใบงานที่ 11

ขอบคุณสำหรับความรู้ สำหรับความมุ่งหวัง สำหรับความทุ่มเท
สำหรับแนวคิดใหม่ๆสำหรับเทคโนโลยี
อาจารย์มีความตั้งใจอย่างมากในการทำการสอน และคงต้องเหนื่อยสักหน่อยในการสอนนักศึกษาโข่ง ภูมิใจมากที่ได้มาเรียนกับอาจารย์ ขอขอบคุณอาจารย์ที่ได้มอบความรู้ ขอให้อาจารย์รักษามาตรฐานนี้ต่อไปคับ

ใบงานที่ 9

คุณลักษณะผู้บริหารมืออาชีพ
1.ความหมาย
มืออาชีพ หมายถึง การทำงานด้วยความรู้ความสามารถ ความตั้งใจจริงและทำงานให้เกิดผลงานดีที่สุด
2.คุณลักษณะของการเป็นมืออาชีพ
คือ คุณลักษณะหรือพฤติกรรมของผู้ประกอบอาชีพที่มีแนวปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความ สำเร็จ เช่น ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน ตรงต่อเวลา เป็นคนเก่ง เป็นคนดี มีความกล้าหาญ รับผิดชอบ ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด สุภาพ ตรงต่อเวลา รู้จักแสวงหากัลยาณมิตร ใช้คุณธรรมเป็นเครื่องชี้นำอาชีพ ฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่เสมอเป็นต้น

3.นัก บริหารมืออาชีพ คือผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารงาน กิจการต่าง ๆ ให้สำเร็จ โดยอาศัยความรู้ความสามารถของตนเองและความร่วมมือของผู้อื่น ลักษณะเด่นของผู้บริหารมืออาชีพมีดังนี้
3.1 มีความรอบรู้ทันต่อเหตุการณ์
3.2 มีการตัดสินใจที่ดี รวดเร็ว แม่นยำและถูกต้อง
3.3 จับประเด็นได้รวดเร็ว ออกความเห็นได้
3.4 ยอมรับการเปลี่ยนแปลงพร้อมที่จะปรับตัว
3.5 มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ เคร่งครัดเรื่องเวลา
3.6 ซื่อสัตย์มีคุณธรรม ยึดมั่นในจรรยาวิชาชีพ
3.7 เชื่อมั่นในตนเอง มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี สามารถประสานงานได้เยี่ยม

ใบงานที่ 8

1.ความหมายของคำว่าสถิติ (Statistics) หมายถึง
ตัวเลขที่ใช้บรรยายเหตุการณ์หรือข้อเท็จจริง (facts) ของเรื่องต่างๆ ที่เราต้องการศึกษา เช่น สถิติจำนวนผู้ป่วย สถิติจำนวนคนเกิด สถิติจำนวนคนตาย เป็นต้น

2.ค่าเฉลี่ย หรือค่ามัชฌิมเลขคณิต (Arithmetic mean) คือค่าเฉลี่ยของข้อมูลทั้งหมด ความหมาย
เป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย
ค่ามัธยฐาน (Median) คือค่าของข้อมูลที่จุดกึ่งกลางของการกระจายของข้อมูลโดย 50% ของข้อมูลมี ค่าสูงกว่าค่า มัธยฐาน และ 50% มีค่าต่ำกว่าค่ามัธยฐาน และมักใช้ในกรณีที่ การกระจายของข้อมูลมีลักษณะไม่เท่ากันทั้งสองข้าง (Asymmetry) หรือมีลักษณะเบ้ไปทางซ้ายหรือทางขวาเป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย
ค่าฐานนิยม (Mode) คือค่าของข้อมูลที่มีความถี่มากที่สุดในข้อมูลของชุดนั้นๆ ซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่งค่าหรือไม่มีเลยก็ได้ เป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เป็นการวัดการกระจายของข้อมูลว่าจะเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยมากน้อยเท่าใด เป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย

3.ประชากร (Population) หมายถึง กลุ่มสมาชิกทั้งหมดที่ต้องการศึกษา อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ได้ ใช้สัญลักษณ์ “N” แทนจำนวนประชากร
กลุ่มตัวอย่าง (Sample) หมายถึง กลุ่มสมาชิกที่ถูกเลือกมาจากประชากรด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพื่อเป็นตัว แทนในการศึกษาและเก็บข้อมูล ใช้สัญลักษณ์ “n” แทนสมาชิกของกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างต่างกัน เพราะกลุ่มตัวอย่างเป็นเพียงสมาชิกส่วนหนึ่งของประชากรที่ถูกคัดเลือกมาใช้ ในการศึกษาด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ตัวอย่าง เช่น ถ้าครุผู้สอนต้องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ม.2 ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ซึ่งนักเรียนมีจำนวนมาก ครูผู้สอนในฐานะนักวิจัยไม่สามารถศึกษาจากประชากร(นักเรียนชั้น ม.2)ทั้งหมดได้จึ้งคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.2 มาบางส่วนโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างโดยอาศัยหลักความน่า
จะเป็น โดยใช้ตารางเลขสุ่ม หรือคำนวนด้วยสูตรอื่นๆ ผลที่ได้จากการศึกษาจะอ้างอิงไปสู่ประชากรทั้งหมดได้
4. มาตรนามบัญญัติ (Nominal Scale)
-เป็นมาตรวัดที่หยาบที่สุด จัดข้อมูลออกเป็นกลุ่มๆ แยกตามประเภทหรือชนิด
-สถิติ : ความถี่ ร้อยละ ฐานนิยม หรือใช้สถิติแบบนอนพาราเมตริก
-ตัวแปร : เป็นตัวแปรที่ไม่มีขนาด ไม่มีความเท่ากันของช่วง และไม่มีศูนย์สมบูรณ์
มาตรเรียงลำดับ (Ordinal Scale)
-เป็นมาตรวัดที่ใช้กับข้อมูลที่สามารถจัดเรียงอันดับความสำคัญหรือสามารถเปรียบเทียบกันได้
-สถิติ : ฐานนิยม มัธยฐาน พิสัย เปอร์เซนต์ไทล์ และสถิติแบบนอนพาราเมตริก
-ตัวแปร : เป็นตัวแปรที่มีการจัดลำดับข้อมูลจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมากได้ แต่ไม่ได้บอก
ถึงปริมาณแต่ละอันดับว่ามากน้อยเท่าใด ไม่มีความเท่ากันของช่วงคะแนน และไม่มีศูนย์สมบูรณ์
มาตรอันตรภาค (Interval Scale)
-เป็นมาตรวัดที่สามารถบอกได้ทั้งทิศทางและขนาดของ ความแตกต่างของข้อมูล มาตรวัดนี้ไม่มีศูนย์ที่แท้จริง
(absolute zero)
-สถิติ : ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
-ตัว แปร : เป็นตัวแปรที่สามารถบอกระยะห่างของตัวเลข 2 ตัว ว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยเท่าใด มีเกณฑ์อยู่กับสิ่งที่เรียกว่าศูนย์สมมติ
มาตรอัตราส่วน (Ratio Scale)
-เป็นมาตรวัดที่มีลักษณะสมบูรณ์ทุกอย่าง ดีกว่ามาตรวัดอันตรภาคตรงที่มาตรการวัดนี้มีศูนย์
ที่แท้จริง
-สถิติ : สถิติที่ใช้กับการวัดในระดับนี้ใช้ได้ทุกวิธีที่มีอยู่
-ตัวแปร : เป็นตัวแปรที่มีระดับการวัดเหมือนมาตราอันตรภาค และมีศูนย์สมบูรณ์ ข้อมูลที่
เป็นอัตราส่วนสามารถนำมาบวก ลบ คูณ หาร ได้ และสามารถใช้ได้กับสถิติทุกประเภท

5. ตัวแปร หมายถึง สิ่งที่เปลี่ยนค่าไปได้หลายค่า เป็นลักษณะคุณภาพ คุณสมบัติของบุคคล สิ่งของ หรือสิ่งที่สนใจจะนำมาศึกษาที่สามารถนับได้ วัดได้ หรือหมายถึง สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปตามระยะเวลา แปรเปลี่ยนได้หลายค่า หรือมากกว่า 1 ลักษณะ เช่นเชื้อชาติ แปรค่าได้เป็น ไทย , จีน , ….

ตัว แปรต้น หรือตัวแปรอิสระ (independent variable) เป็นตัวแปรเหตุที่ทำให้ผลตามมา หรือทำให้สิ่งที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วยเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะ หรือ แปรสภาพไป ตัวแปรต้นจะมีลักษณะ เป็นตัวแปรเหตุ เป็นตัวแปรที่มาก่อน เป็นตัวแปรที่จัดกระทำในการทดลอง มีลักษณะเป็นตัวทำนาย เป็นตัวกระตุ้น
หรือ มีความคงทน ถาวร

ตัวแปรตาม (dependent variable) เป็นตัวแปรที่มีผลมาจากตัวแปรต้น ซึ่งตัวแปรตามจะมีลักษณะ เป็นตัวแปรที่เป็นผล
เกิดขึ้นภายหลัง เกิดขึ้นเองไม่สามารถจัดกระทำได้ในการทดลอง เป็นตัวถูกทำนาย เป็นตัวตอบสนอง เปลี่ยนแปลงได้ง่าย
ตัวอย่าง เช่น การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ม.2 โดยใช้การสอนตามคู่มือครูกับการสอนโดยการใช้ชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะทางภาษา อังกฤษแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษา
ตัวแปรต้น คือ การสอนตามคู่มือครูกับการสอนโดยการใช้ชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษา
ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

6.สมมติฐาน คือ การคาดการณ์ผลการวิจัยไว้ล่วงหน้าโดยมีทฤษฎีหรือข้อค้นพบจากผลงานวิจัยที่ ผ่านมามารองรับ เป็นคำตอบที่คาดการณ์ไว้ก่อนที่จะดำเนินการวิจัยจริง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- สมมติฐานการวิจัย เป็นข้อความที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ที่ผู้วิจัยคาดว่าจะเกิดขึ้นมักจะเขียนในเชิงความเรียงธรรม
- สมมติฐานทางสถิติ เป็นการนำข้อความจากสมมติฐานการวิจัยมาเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ทางสถิติ

7. T-test เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ย เหมาะสำหรับถ้าตัวแปรเป็นตัวแปรเชิงปริมาณที่สามารถวัดค่าได้
F – test (หรือ ANOVA) เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ยตั้งแต่สองกลุ่มขึ้นไป
T-test และ F – test เหมือนกันคือเป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ย ต่างกันคือ F – test เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ยของข้อมูลตั้งแต่ 2 กลุ่มขึ้นไป

ใบงานที่ 7

การทำ Wedboard ให้สวยงาม

การใส่ Glitter ใน Blog
1.คลิกเลือก tab “โค้ด HTML”
2.จากนั้นจึงนำโค้ด embed ของ Glitter ที่เราต้องการใส่ลงไป
ตัวอย่างโค้ด embed จากเว็บไซต์ http://widget.sanook.com
3.เมื่อคลิกกลับมาที่ tab “มุมมองปรกติ” อีกครั้ง ก็จะเห็นกลิตเตอร์น่ารักๆ
4.ตกแต่ง Blog ให้สวยงามแล้วคลิกปุ่ม “บันทึก” ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

วิธีแรก ปรับให้หัวข้อเรื่อง หรือ keyword มาก่อน description ตรง title bar
1. ไปที่ Layout -> Edit HTML
2. หา
3. แทนที่ด้วย code

ทำภาพสไลด์โชว์รูปสวยๆ ใส่บล็อก ด้วยเว็บ slide.com
เมื่อเข้าไปหน้าแรกแล้วจะเห็นปุ่ม browse
ให้ คลิกปุ่ม browse เลือกรูปของเรา แล้วก็เลือก skins เลือก themes ,effects ต่างๆเยอะแยะ และสามารถเอาเพลงใส่ได้ด้วย เมื่อเลือกตกแต่งจนพอใจแล้ว ก็จะได้โค๊ดมา ให้เอาโค๊ดนั้นไปใส่ในบล็อก

วิธีใส่เพลงในบล็อก
ถ้าเราต้องการจะใส่เพลงใน entryปรับหน้า ให้สามารถใช้ Code Html ก่อน
แล้วจึงนำ Code… ต่อไปนี้ ใส่ไป

ใบงานที่ 6

Google
เว็บไซต์ Google (www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล
เว็บไซต์ Google แบ่งหมวดหมู่ของการค้นหาออกเป็น 4 หมวดหมู่ด้วยกัน ดังนี้คือ
เว็บ (Web)
เป็นการค้นหาข้อมูลในรูปแบบของเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยการแสดงผลจะแสดงเว็บไซต์ที่มีคำที่เป็น Keyword อยู่ภายเว็บไซต์นั้น
รูปภาพ (Images)
เป็นการค้นหารูปภาพจากการแปลคำ Keyword
กลุ่มข่าว (News)
เป็นการค้นหาข้อมูลที่เป็นเนื้อหาที่อยู่ในข่าว ซึ่งมีการระบุชื่อผู้เขียนข่าว, หัวข้อข่าว, วันที่และเวลาที่โพสต์ข่าว
สารบบเว็บ (Web Directory) Google มีการจัดประเภทของเว็บไซต์ออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งเราสามารถค้นหาเว็บในเรื่องที่ต้องการตามหมวดหมู่ที่มีอยู่แล้วได้เลย
เลือกใช้บริการ Search Engine ที่เหมาะกับสิ่งที่กำลังจะค้นหา
หากต้องการ ค้นหาคำสองคำ ที่คู่กัน ควรใส่เครื่องหมายคำพูดกำกับ เช่น " Bill Clinton"
ตัวอักษร ใหญ่เล็กมีผลต่อการค้นหา หากต้องการระบุ ตัวอักษรใหญ่เล็ก ควรพิมพ์ระบุให้ถูกต้อง
ควรกำหนดคำในการค้นหาให้เจาะจง หรือใกล้เคียงสิ่งที่ต้องการค้นหา เพื่อได้สิ่งที่ต้องการ
ควรระบุ keyword หลายคำ และใช้ AND เชื่อมเพื่อให้ได้ ไซท์ที่มีคำทั้งสองคำ เช่น computerAND internet
การค้นหาคำใดคำหนึ่ง ใน 2 คำ ให้ใช้ OR ประกอบ เช่น ??? Boy OR Man
เมื่อไม่ต้องการให้ค้นหาคำใด ควรระบุ? NOT ประกอบการค้นหา เช่น Fruite NOT apple
การใช้เครื่องหมายดอกจันประกอบการค้นหา เช่น?? Inter* เพื่อให้ได้คำที่หลากหลาย
อ่านคำแนะนำของแต่ละ Search Engine ประกอบการค้นหา ในแต่ละครั้งเพราะอาจมีวิธีแตกต่างกันไปอย่างเช่น search engines ของ Thaiwebhunter
การค้นหาข้อมูลใน Thaiwebhunter directory search ควบคุมการค้นหาโดย common gateway interface ให้เข้าไปค้นหาในฐานข้อมูลทุกไดเร็กทอรี ที่บรรจุในไทยเวบฮันเตอร์ การใส่คำ (Word) หรือข้อความที่ต้องการลงไป ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ที่มีคำดังกล่าวออกมาทั้งหมด แต่การที่จะให้การค้นหา เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น ก็ต้องมีการใช้เทคนิคต่างๆ ดังนี้
1.ใส่ประโยค หรือข้อมูลที่ต้องการค้นหาเป็นคำๆ เดียว (ไทย หรือ อังกฤษ ก็ได้)
2.ค้นหาโดยเลือก Boolean AND จะค้นหา Web Page ที่มีคำทั้ง 2 คำ ปรากฏอยู่ เช่น (Amazing Thailand 1999) จะเป็นการค้นหาเวบที่มีคำว่า Amazing และ Thailand และ 1999
3.ค้นหาโดยเลือก Boolean OR จะค้นหา Web Page ที่มีคำอย่างน้อย 1 คำ ปรากฏอยู่ เช่น (เพลง บันเทิง) จะเป็นการค้นหาเวบที่มีคำว่า เพลง หรือ บันเทิง
4.Case เป็น Insensitive หมายความว่าอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็ก-ตัวใหญ่ ไม่มีผลในการค้นหา
5.Case เป็น Sensitive หมายความว่าการค้นหาต้องตรงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็ก-ใหญ่เท่านั้น
6.สำหรับ webmaster หรือเจ้าของเวบไซต์ต่างๆ อยากทราบว่าเวบตนเองถูกบรรจุใน directory ของไทยเวบฮันเตอร์นี้หรือยัง สามารถใส่ URL ของเวบไปเพื่อหาดูก็ได้ เช่น www.thaidot.com หรือ www.bunwood.com แล้วกด Search ก็จะทราบว่าเวบไซต์ดังกล่าวอยู่ในไดเร็กทอรี่ไหน โดยไม่ต้องใส่ http:// ด้านหน้า URL ดังกล่าว หลังจากการค้นหาเรียบร้อยแล้ว คำที่คุณใส่ให้ระบบทำการค้นหานั้นจะแสดงออกมาว่า คำๆ นั้นอยู่ใน ไดเร็กทอรี ใด หรือ หมวดใด ดังนั้นคุณต้องเข้าไปในหมวดนั้นๆ แล้ว กดปุ่ม Ctrl พร้อมกับปุ่ม f เพื่อค้นหาคำๆนั้นในหมวดนั้นๆ อีกครั้ง คุณก็จะพบเว็บไซต์ที่ต้องการ

http://earth.google.com/intl/th/userguide/v4/ug_gps.html

ใบงานที่ 4

การจัดการความรู้ เป็นกระบวนการ (process) ที่ดำเนินการร่วมกัน โดยผู้ปฏิบัติงานในองค์กร หรือหน่วยงานย่อยขององค์กร เพื่อสร้าง และใช้ความรู้ในการทำงาน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ดีขึ้นกว่าเดิมการจัดการความรู้ในความหมายนี้ จึงเป็นกิจกรรมของผู้ปฏิบัติงาน ไม่ใช่กิจกรรมของนักวิชาการ หรือนักทฤษฎี แต่นักวิชาการ หรือนักทฤษฎีอาจเป็นประโยชน์ ในฐานะแหล่งความรู้ (resource person) หรือผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการความรู้
www.sci-educ.nfe.go.th/download/kmDoc/what_is_KM.doc
ขั้นตอนการจัดการความรู้
1.การจัดการการเปลี่ยนแปลงและพฤติกรรม
2.การสื่อสาร
3.กระบวนการและเครื่องมือ
4.การฝึกอบรมและการเรียนรู้
5.การวัดผล
6.การยกย่องชมเชยและให้รางวัลhttp://www.fisheries.go.th/it/itdof/index.php?option=com_content&task=view&id=27&Itemid=1
แหล่งข้อมูล คือ สถานที่ที่สามารถ ค้นคว้า สืบค้น เรียนรู้ ข้อมูลต่างๆแต่ละประเภทตามที่เราต้องการและอยู่ในรูปลักษณะที่ แตกต่างกันออกไป ตามที่แหล่งข้อมูลนั้นๆจะนำเสนออกมายิ่งในปัจจุบันจะมีรูปแบบในการนำเสนอ ที่หลากหลายมาก จนเราตามไม่ทันและมีข้อมูลมากมายมหาศาล ให้เราได้เรียนรู้ สืบค้น ค้นคว้า มาใช้ในการเรียนและงานต่างๆมากมาย
ตัวอย่างแหล่งข้อมูล ที่มีในปัจจุบัน
1. สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
2. ซีดี วีซีดี ดีวีดี วีดีโอ ภาพยนต์
3. สถานที่ต่างๆ ห้องสมุด โบราณสถาน สถานที่ท่องเที่ยว
4. เทคโนโลยีต่างๆ ทีวี วิทยุ ระบบอินเทอร์เน็ต ดาวเทียม
http://www.ketkwanchai.info/ebook2/f6.htm
เครือข่ายการเรียนรู้
หัวใจสำคัญของเครือข่ายการเรียนรู้อย่างหนึ่งคือการถ่ายทอดแลกเปลี่ยน และกระจายความรู้ ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับชุมชน และความรู้ดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาภายในชุมชน ในแต่ละชุมชนมักมีความรู้ที่มีการสะสมและสืบทอดกันมา ซึ่งมักเป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการวิถีการดำเนินชีวิตของชุมชนนั้น ๆ และเป็นความรู้ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสภาพที่เป็นจริงของชุมชน
สารสนเทศ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
เช่น สารสนเทศที่เป็น ความรู้ที่เกิดจากวิทยุ โทรศัพท์มือถือ ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ รอบตัวเราซึ่งอาจมาจาก วิทยุ โทรทัศน์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ดาวเทียม โทรศัพท์ เครื่องจักร ที่เกี่ยวกับสารสนเทศได้ เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ เช่น การฝาก ถอนเงินผ่านเครื่อง ATM การจองตั๋วเครื่องบิน การลงทะเบียน ฯลฯ
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=3038186b229ad337